ผ่านมาแล้วครึ่งปี แต่โลกของนาฬิกายังไม่หยุดที่จะสร้างดีไซน์ใหม่ ๆ เพื่อกระตุ้นความต้องมีให้กับนักสะสมไม่ว่าจะใหม่หรือเก่า แต่จะว่าไปแล้ว นาฬิกา Everyday Watch ก็จะมีการปรับโฉมเดิมมากกว่าการดีไซน์ใหม่ เพราะความคลาสสิคและการได้รับความนิยมยังคงมีมากกว่าของใหม่อยู่มาก และสำหรับความเป็นนาฬิกาแล้วการเปลี่ยนแปลงรูปโฉมที่จะให้หลุดออกไปจากเดิมและเป็นการเน้นสีมันอาจจะดูไม่เข้าตานักออกแบบสักเท่าไหร่ แต่พวกเขาได้เลือกการนำเอารุ่นที่ได้รับความนิยมและเป็นความนิยมที่ยาวนานแทบจะไม่เปลี่ยนใจเลยมาใช้ในการปรับสี ซึ่งถือว่าเป็นการใช้กลยุทธ์การปรับเปลี่ยนที่ค่อนข้างช้าฉลาดทีเดียว
สำหรับปีนี้ เราจะเห็นได้ว่ามีการเลือกสีนำโชคแห่งปี และปีนี้ก็เป็นปีแห่งสีเขียว โดยวงการแฟชั้นเครื่องประดับก็ไม่รอช้า จับสีเขียวมาเป็นคอลเลคชันเด่นของแบรนด์กันมากมาย ไม่เว้นแม้กระทั่งวงการนาฬิกา มีหลายแบรนด์ที่ออกแบบนาฬิกามาด้วยการให้โทนสีเขียว ทำให้รูปแบบของนาฬิกาที่จากเดิมเป็นความเคร่งขรึม เรียบง่าย กลับเป็นการสร้างสีสันมากขึ้น
เราได้นำเอานาฬิกาโทนเขียวรุ่นที่น่าจับตามากระตุ้นความอยากสะสมของเหล่าบรรดานักสะสมหรือแม้กระทั่งสายสีเขียวทั้งหลาย ลองมาดูกันว่าจะมีรุ่นไหนแบรนด์ไหนที่เด่น ๆ กันบ้าง
Grand Seiko Evolution 9 I SLGH011 Green Birch
Retail Price 353,1000 THB
สำหรับรุ่นนี้ เป็นรุ่นที่มีความเป็นมาที่น่าสนใจ ก่อนอื่นเลยก็น่าจะเป็นชื่อเล่นที่เรียกกันว่า Green Birch ในรุ่น SLGH011 สำหรับรุ่นนี้เราจะเห็นแล้วเมื่อปี 2021 ที่ผ่านมา แต่ว่าดีไซน์ของหน้าปัดจะทำออกมาเป็นสีขาว White Birch นักออกแบบได้รับแรงบันดาลใจมาจากลำต้นของต้นไม้ชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า White Birch ซึ่งเป็นชื่อเดียวกับรุ่นของนาฬิกา แรงบันดาลใจนี้เป็นแรงบันดาลใจที่ค่อนข้างจะบังเอิญเนื่องจากต้น White Birch เติบโตอยู่ใกล้ๆกับ Shizukushi Studio ที่ผลิตนาฬิกาของ Grand Seiko พอดิบพอดี จึงเป็นที่มาของลายเปลือกไม้อยู่ที่หน้าปัด แล้วเป็นการออกแบบที่ประณีตและสวยงาม
และจากที่ White Birch ได้ออกมาสู่ตลาดและได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจึงทำให้ Seiko ได้คิดที่จะผลิตในดีไซน์เดียวกันแต่ใช้สีเขียวที่เป็นสีแห่งความโชคดีปี 2022 และที่น่าแปลกใจไปกว่านั้นก็คือการให้สีเขียวทำให้ mood and feel มีความรู้สึกไปในอีกรูปแบบหนึ่งเพียงแค่คุณได้มองเข้าไปที่ตัวหน้าปัดนาฬิกา มันจะทำให้คุณรู้สึกถึงความนุ่มลึกและความถึงในดีไซน์ และด้วยความเป็นดีไซน์ของลำต้นของต้นไม้ดังนั้นสีเขียวจึงเป็นสีที่ค่อนข้างเหมาะและให้ความรู้สึกได้ชัดเจนมากขึ้นจริง ๆ สำหรับ Green Brichจะเป็นการใช้กลไก Automatic Hi-Beat In-House Cal.9SA5
Omega Seamaster l Omega Speedmaster
สำหรับความเป็นโอเมก้าแล้วพวกเขาจะไม่ยอมปล่อยให้ความโดดเด่นตามสมัยนิยมหลุดมือ ดังนั้น Omega จึงหยิบเอารุ่น Omega สีมาสเตอร์และโอเมก้าสปีดมาสเตอร์มาใช้ความผสมผสานของสีเขียวสร้างความน่าสนใจให้กับนาฬิกาทั้ง 2 รุ่น
Omega Seamaster Driver 300 M
Retail Price 196,000 THB
สำหรับ Omega seamaster บอกเลยว่าการให้สีเขียวเป็นดีไซน์เป็นเรื่องที่น่าตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างมากในวงการนักสะสม เพราะโดยปกติแล้วSseamaster จะเป็นหน้าปัดที่มากับสีฟ้าเป็นตำนานที่ยาวนานกันมาตลอดสำหรับรุ่นนี้ เมื่อพูดถึงสิ Seamaster ก็จะต้องนึกถึงหน้าปัดสีฟ้าในทันทีแต่ตอนนี้ความเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จัดว่าเป็นการทำเอาช็อกกันทั้งวงการนักสะสมกับการให้สีเขียวอยู่บนดีไซน์ของรุ่นนี้ สำหรับรูปแบบของดีไซน์ยังคงไว้เหมือนเดิมทุกอย่างเพียงแค่ให้สีเขียวอยู่บนพื้นของหน้าปัดและขอบ bezel และสำหรับ Collection สีเขียวนี้ก็จะมีสายถึง 2 แบบนั่นก็คือสาย Steel และสายยางสีเขียวที่เข้ากับหน้าปัดเขียวได้เป็นอย่างดี
Omega Speedmaster Moonwatch
Steel Bracelet Rubber Strap
Retail
Price 1,258,000 THB Retail Price 890,000 THB
สำหรับตัวบีบมาสเตอร์นี้เป็นการเปลี่ยนแปลงจากดีไซน์เดิมเล็กน้อย ซึ่งก็ได้แก่การเปลี่ยนแปลงด้วยการใช้สีเป็นสีเขียวแต่มีการเปลี่ยนแปลงตัววัสดุที่ใช้ทำเคสด้วย โดยปกติแล้ว Speedmaster ก็จะเป็นชื่อเต็มๆว่า Speedmaster Moonwatch ด้วยตัววัสดุที่ปรับใหม่เป็นการใช้วัสดุที่เป็นทอง 18k เป็นทองที่ใช้วัสดุเฉพาะของ Omega ที่คิดค้นขึ้นมาเมื่อปี 2019 เรียกว่า Moon Shine Gold ซึ่งโดยลักษณะแล้วจะเป็นสีทองที่ไม่ได้ออกเหลืองจัดจ้านเหมือนตัว 18k ปกติแต่ยังคงให้ความรู้สึกว่าเป็นนาฬิกาเรือนทองเหมือนเดิมแต่ดูคลาสสิคกว่าเดิม ในขณะที่กลไกของ Omega Seamasterก็ยังคงใช้กลไกตัวเดิมไม่เปลี่ยนแปลงนั่นก็คือ เทคโนโลยี โค-แอ็กเซียล เอสเคปเม้นต์ ที่เน้นการทำงานแบบไร้สัมผัสยกระดับความเป็น Omega ไปถึงจุดสูงสุด
การเปลี่ยนแปลงรูปโฉมและวัสดุความเข้ากันมันทำให้ Look and feel ดูออกมาเป็นแบบวินเทจแบบไม่ได้ตั้งใจ และยิ่งไปกว่านั้นสายที่มาพร้อมกันก็มีให้เลือกถึง 2 แบบก็คือสายที่เป็น Steel และเป็นสายหนังสีเขียวดำเข้มซึ่งยิ่งให้ความรู้สึกวินเทจแบบลึกซึ้งจริง ๆ สำหรับสายหนัง คุณจะไม่รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลง แต่คุณจะรู้สึกความเปลี่ยนไปที่ให้คุณค่าที่มากขึ้น
จะบอกว่าสำหรับนาฬิกาหน้าปัดสีเขียวยังมีอีกหลายคอลเลคชันที่น่าสนใจที่จะให้คุณติดตามต่อ สำหรับ 2 รุ่นที่เราบอกก่อนหน้านี้ก็คือ Grand Seiko Evolution 9 I SLGH011 Green Birch และ Omega Seamaster l Omega Speedmaster ก็จัดว่าเป็นรุ่นที่มีความโดดเด่นที่เราได้เลือกมาให้คุณได้สัมผัสถึงความรู้สึกความสวยงามและความน่าใช้งาน แต่เราอยากให้คุณติดตามใน EP 2 ซึ่งยังคงมีรุ่นนาฬิกาสีเขียวที่น่าสนใจอีกมากมายรอให้คุณเข้าไปเลือกชมอยู่ อย่าพลาดการติดตามใน EP 2 นะคะ onsalereplicawatches
เครดิต : เว็บสล็อต