หากคุณกำลังมองหานาฬิกาที่คุ้มค่ากับการลงทุนมีเอกลักษณ์ในตัวเอง มาตรฐานการผลิตที่ดี ดีไซน์ทันสมัยมีเสน่ห์ ไม่ตกเทรนด์ และที่เป็นที่รู้จักระดับโลกมาเป็นเวลาร่วม 100 ปี เราขอนำเสนอ RADO 10 รุ่น 10 สไตล์ มีทั้งของผู้ชายและผู้หญิง มีความโดดเด่นในด้านการออกแบบ มีดีไซน์ที่มีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใครและมีการคิดค้นเทคโนโลยีใหม่ ๆ อยู่เสมอ หากคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่กำลังมองหานาฬิกาคุณภาพดีที่เหมาะกับตัวเองแล้วไปชมกันได้เลย
1 RADO THE ORIGINAL AUTOMATIC 
เริ่มต้นกันด้วย RADO ทรงคลาสสิคที่ผู้คนรู้จักกันดี ถือเป็นรุ่นแรกที่ทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักในวงกว้างมีหลายสีให้เลือกเช่นสีทองและสีเงิน ตัวเรือนรูปทรงไข่ วัสดุแข็งแรงทำจากสเเตลเลสสตีลจากนวัตกรรมวัสดุที่ทนต่อการเกิดรอยได้เริ่มใช้กับรุ่นนี้เป็นรุ่นแรก และประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากหลังจากการเปิดตัว ปัจจุบันแบรนด์ได้ปรับปรุงดีไซน์เพื่อให้ดูทันสมัยยิ่งขึ้น สามารถกันน้ำลึกได้ 30 เมตร
คอลเล็กชั่น DIASTAR ORIGINAL รหัส R12413494
ขนาดตัวเรือน 35×42 มิลลิเมตร
น้ำหนัก 130 กรัม
ราคาเริ่มต้น 27,500 บาท
2 RADO DIASTAR THE ORIGINAL AUTOMATIC
ด้วยการคิดค้นแบบไม่หยุดพัฒนาของ RADO ได้เปิดตัว DiaStar เป็นตัวคอลเล็คชั่นใหม่ในปี 1962 เป็นการปัฏิวัติวงการนาฬิกาด้วยความที่ว่า เป็นเรือนแรกที่นำการขับเคลื่อนโดยกลไกออโตเมติกแบบ Nivachron มาใช้ และการนำวัสดุแบบ Hard metal ที่ใช้นวัตกรรมแบบเฉพาะของ RADO เพื่อป้องกันรอยขีดข่วน หน้าปัดแบบกัดลายเพื่อให้เห็นกลไกการทำงานที่ซับซ้อนด้านใน มีเข็มสีทองบอกเวลามี พรายน้ำเรืองเเสงได้ในที่มืด ตัวเรือนเคลือบเงินด้วยเทคโนโลยีเฉพาะจากสวิสเซอร์แลนด์ ไม่ลอก ไม่หมอง ไม่ว่าจะใส่นานเท่าไหร่ก็ยังสวยงามหรูหราเสมอ
คอลเล็กชั่น DIASTAR ORIGINAL รหัส R12063013
ขนาดตัวเรือน 35×42 มิลลิเมตร
น้ำหนัก 106 กรัม
ราคาเริ่มต้น 46,400 บาท
3 RADO FLORENCE DIAMONDS 
ได้รับแรงบันดาลใจมาจากหอคอยและโดมที่ตั้งอยู่ในเมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี และเป็นที่มาของชื่อคอลเลกชันนี้ สำหรับรุ่น Florence Diamonds ที่เราเลือกมาแนะนำจะเป็นสีพิงค์โกลด์ที่ตัวเรือน เข็มชี้เวลา และสาย ส่วนหน้าปัดเป็นขาวนวล และมีเพชรประดับอยู่ 4 เม็ดที่หลักบอกเวลา (3 , 6 , 9 ,12 ) ดูสวยงามลงตัว สาว ๆ คนไหนที่กำลังมองหานาฬิกาสำหรับใส่ในชีวิตประจำวันรุ่นนี้นับเป็นตัวเลือกที่ดีในการลงทุน
คอลเล็กชั่น FLORENCE รหัส R48873734
ขนาดตัวเรือน 28 มิลลิเมตร
น้ำหนัก 70 กรัม
ราคาเริ่มต้น 37,500 บาท
4 RADO HYPERCHROME CHRONOGRAPH 
หากคุณเป็นคนที่ชอบนาฬิกาที่มีดีไซน์สปอร์ตเท่และดูเป็นทางการในตัวเดียวกัน รุ่น HyperChrome Chronograph คือ รุ่นที่จะสามารถตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้ กลไกเป็นแบบออโตเมติกแบบควอตซ์ระบบทำงานแบบ Chronograph จึงมีหน้าปัดที่สามารถบอกเวลาได้อย่างละเอียดและจับเวลาได้ด้วย หน้าปัดและตัวเรือนยังมีสีให้เลือกหลายสีในรุ่นนี้ โดยรุ่นที่เลือกมาจะมีกรอบและสายสีเงินเทาตัดกันกับขอบหน้าปัดและหน้าปัดสีดำมี เข็มสีดำขอบสีเงินภายในมีพรายน้ำสามารถเรืองเเสงในที่มืด ลูกเล่นเส้นลายสีแดงตั้งแต่ทิศ 0-3 นาฬิกา และปลายเข็มวินาทีสีแดง เหมาะกับผู้ชายและเข้ากับการแต่งตัวได้หลายสไตล์ทั้งแบบหล่อเท่ หรือเป็นทางการก็ได้ทั้งนั้น
คอลเล็กชั่น HYPERCHROME รหัส R32259153
ขนาดตัวเรือน 44.9 มิลลิเมตร
น้ำหนัก 165 กรัม
ราคาเริ่มต้น 53,500 บาท
5 RADO COUPOLE CLASSIC AUTOMATIC
หนึ่งในรุ่นยอดนิยมเพราะมีความเป็น Unisex สามารถใส่ได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิงที่มีดีไซร์การออกแบบอย่างลงตัวเรียบง่ายแต่หรูหรา ฝาหน้าปัดทำจาก Sapphire คุณภาพดีเกิดรอยขีดขวนได้ยากช่วยลดการสะท้อนแสงช่วยให้อ่านเวลาง่ายขึ้นในที่แสงจัด ส่วนรุ่นที่เราเลือกมาแนะนำนี้ถือว่ามีความเรียบง่าย โดยมีตัวเรือนสีทองแดง หน้าปัดสีเนื้ออกกนวลๆ สายหนังแท้สีน้ำตาลดำ และหลักการบอกเวลาเรียบง่ายแบบขีด มีช่องแสดงวันที่ที่ทาง 3 นาฬิกา เราแนะนำขนาดหน้าปัด 37.8 มิลลิเมตร ที่ไม่เล็กหรือใหญ่เกินไปใส่ได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง
คอลเล็กชั่น COUPOLE CLASSIC รหัส R22865115
ขนาดตัวเรือน 37.8 มิลลิเมตร
น้ำหนัก 42 กรัม
ราคาเริ่มต้น 42,800 บาท
6 RADO TRUE AUTOMATIC
ด้วยเทคโนโลยีการเคลือบวัสดุด้วยเซรามิคแบบฉบับของ RADO ทำให้ตัวเรือน หน้าปัด และสายสีดำของรุ่น RADO TRUE AUTOMATIC นั้นดูมินิมอล เงางาม หรูหราอย่างมาก และเสริมความคงทนด้วยข้อล็อคสายนาฬิกาแบบไทเทเนียมช่วยให้แข็งแรงคงทน หลักบอกเวลาแบบขีดเรียบง่ายและเข็มนาฬิกาบนหน้าปัดเป็นสีทองแดงตัดกับสีดำอย่างลงตัว เสริมความพิเศษด้วยพรายน้ำสีขาวด้านในทำให้มองเห็นได้ง่ายในที่แสงน้อย ด้วยสไตล์การออกแบบที่ดูเรียบง่ายแต่หรูหรามีความโมเดิร์นและมินิมอลไปด้วยกัน จึงทำให้รุ่นนี้เป็นที่นิยมเหมาะกับทั้งผู้หญิงและผู้ชาย มีขนาดหน้าปัดให้เลือกทั้งของคุณผู้หญิงที่ 30 มิลลิเมตร และของคุณผู้ชายที่ 40 มิลลิเมตร ใหได้เลือกตามความเหมาะสม
คอลเล็กชั่น TRUE รหัส R27059162 ขนาดตัวเรือน 30 มิลลิเมตร น้ำหนัก 69 กรัม
คอลเล็กชั่น TRUE รหัส R27238162 ขนาดตัวเรือน 40 มิลลิเมตร น้ำหนัก 109 กรัม
ราคาเริ่มต้น 44,600 บาท
7 RADO CENTRIX
RADO CENTRIX เป็นคอลเลคชั่นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของ Rado แม้จะมีรูปทรงที่เรียบง่ายไม่หวือหวา แต่ก็ไม่สามารถหยุดยั้งความนิยมของรุ่นนี้ได้เลย ในคอลเลคชั่น CENTRIX นั้นมีให้เลือกหลากหลายสีสันและดีไซน์หลานรุ่นย่อย สามารถเลือกระบบการทำงานหลักได้ทั้งกลไกควอตซ์และอัตโนมัติ การใช้วัสดุอย่าง High-Tech Ceramic เทคโนโลยีแบบฉบับเฉพาะ RADO อันแสนทนทาน และฝาหน้าปัดแบบคริสตัล Sapphire ป้องกันรอยขีดข่วน ตัวเรือนที่เราเลือกมาให้รับชมเป็นแบบทูโทนสีเงินตัดกับสีทองออกแบบเล่นเส้นสายที่สวยงามแบบสมัยใหม่แต่คงรูปลักษณ์ตัวเรือนแบบดั้งเดิมคลาสสิคสุด ๆ
คอลเล็กชั่น CENTRIX รหัส R30932103
ขนาดตัวเรือน 28 มิลลิเมตร
น้ำหนัก 77 กรัม
ราคาเริ่มต้น 33,900 บาท
8 RADO INTEGRAL DIAMONDS
Integral ได้รับการออกแบบใหม่ให้สวยงามทันรูปแบบของยุคสมัยใหม่ ด้วยนาฬิการูปทรงสี่เหลี่ยมสุดโมเดิร์น มีความโดดเด่นน่ามอง เช่นเคยตัวเรือนทำจาก High-Tech Ceramic และสเตนเลสสตีลจึงมีน้ำหนักเบาและทนทาน หน้าปัดสี่เหลี่ยมภายในสีขาวเพิ่มเสน่ห์ด้วยเพชร 4 เม็ดที่ทิศ 3 6 9 และ 12 ส่วนตัวเรือนจะเป็นแบบสีทูโทนสีเทาเงินตัดกันกับสีโรสโกลด์ให้ความสวยหรู
คอลเล็กชั่น INTEGRAL รหัส R20141712
ขนาดตัวเรือน 22.7 มิลลิเมตร
น้ำหนัก 68 กรัม
ราคาเริ่มต้น 77,9000 บาท
9 RADO TRUE SQUARE TEJ CHAUHAN
เอาใจคนรักนาฬิการูปทรงทันสมัยคล้ายคลึงกับนาฬิกายุคใหม่อย่างสมาร์มวอทซ์ แต่อย่าพึ่งเข้าใจผิดว่ารุ่นนี้เป็นนาฬิกาอัจฉริยะนะ RADO True Square Tej Chauhan มีความโดดเด่น ด้วยความร่วมมือด้านการออกแบบกับดีไซเนอร์ชื่อดังชาวอังกฤษ Tej Chauhan ด้วยรูปทรงที่แปลกแตกต่างสะดุดตาและการนำนวัตกรรมไฮเทคเซรามิคมาใช้ทำให้สีสันที่โดดเด่นเหลืองแบบไม่ซ้ำใคร ได้แสดงวิสัยทัศน์แห่งความล้ำยุคของวัฒนธรรมป็อปได้อย่างดีเยี่ยม ใครเห็นเป็นต้องมองแล้วมองอีก
คอลเล็กชั่น TRUE SQUARE รหัส R27074155
ขนาดตัวเรือน 38 มิลลิเมตร
น้ำหนัก 88 กรัม
ราคาเริ่มต้น 57,900 บาท
10 RADO CAPTAIN COOK AUTOMATIC 
RADO CAPTAIN COOK หนึ่งคอลเล็กชั่นที่ประสบความสำเร็จที่สุดของแบรนด์ คอลเล็กชั่น CAPTAIN COOK กับรุ่นใหม่ของปีปี 2021 ด้วยนวัตกรรมวัสดุแบบ High-Tech Ceramic ที่ทนต่อการเกิดรอยขีดข่วน โดยกลไกของรุ่นนี้เป็นแบบอัตโนมัติใช้ สามารถสำรองพลังงานได้นานถึง 80 ชั่วโมงเมื่อไม่ได้ใช้งาน และยังกันน้ำได้ลึก 300 เมตร นอกจากนี้ในส่วนของดีไซน์ยังผสมผสานทั้งความคลาสสิกและทันสมัยในเรือนเดียวกัน ทำให้เหมาะกับผู้ชายทุกช่วงวัย กรอบมีทั้งหมด 6 สีให้เลือกและเปลี่ยนสายเป็นรูปแบบอื่นได้ด้วย
คอลเล็กชั่น CAPTAIN COOK รหัส R32127162
ขนาดตัวเรือน 43 มิลลิเมตร
น้ำหนัก 157 กรัม
ราคาเริ่มต้น 122,600 บาท
เราได้รวบรวม 10 อันดับนาฬิกา Rado รุ่นที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน เพื่อให้คุณสามารถนำไปประกอบการตัดสินใจในการเลือกซื้อพิจารณามาไว้ในครอบครองนอกจาก 10 เรือนที่เรานำมาให้ชมแล้ว RADO นาฬิกามากถึง 16 คอลเล็กชั่น เข้าไปชมได้ใน https://www.rado.comพราะ RADO นั้นมีประวัติศาสตร์ตั้งแต่ปี 1917 จากเมืองหนาว ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ จนผ่านมาร่วมศตวรรษสะสมประสบการณ์ คุณภาพการผลิต ผ่านความไว้วางใจของผู้คน คุ้มค่าต่อการใช้งาน คุ้มค่าแก่การลงทุนแน่นอน onsalereplicawatches เว็บตรง
Credit ฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ