History of PANERAI
แบรนด์นาฬิกาลูกผสมสองสัญชาติระหว่างสวิสกับอิตาลี แบรนด์หรูขวัญใจนักสะสมบ้านเรา เริ่มต้นจากการเป็นร้านนาฬิกาเล็ก ๆ จากเมือง Florence Italy ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1860 เจ้าของผู้ก่อตั้งคือ Giovanni Panerai นอกจากจะเปิดเป็นร้านขายนาฬิกา ยังเปิดให้ที่ร้านเป็นโรงเรียนสอนการทำนาฬิกาแห่งแรกในอิตาลี ผ่านไป 30 ปีในปี 1890 มีการสืบทอกกิจการโดยหลายชายของ Giovanni คือ Guido Panerai ได้ย้ายฐานที่ตั้งไปยังเมือง Piazza San Giovanni
กับนาฬิกาเรือนแรกที่ได้ร่วมทำงานกับ Rolex ในรุ่น Radiomir ที่เป็นการกำเนิดนาฬิกาสายเรือนแรกของ PANERAI ด้วยความพิเศษของผง Radium สร้างการเรืองแสงสำหรับมองในที่มืด จัดว่าประสบความสำเร็จอย่างมากจัดเป็นความสำเร็จระดับโลกสำหรับนวัตกรรมของนาฬิกาเรืองแสงเรือนแรก ๆ แต่เอาเข้าจริงนาฬิกาต้นแบบที่ออกมาครั้งแรกในปี 1936 ประมาณ 40 ปีให้หลัง และเป็นช่วงเวลาก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง
ตัวเรือนที่สร้าง Rolex เป็นผู้ผลิตให้ทั้งหมดโดยการใช้วัสดุที่เป็นตัว Oyster ที่มีความแข็งแรงทนทานมากกว่าปรกติ และใส่กลไก Rolex Calibre 618 ที่มีความคล้ายคลึงกับ Rolex Oyster รุ่นแรก ๆ โดยออกแบบให้เป็นดีไซน์แบบ Cushion Case ดูมีความล้ำสมัย มีเอกลักษณ์ที่ลวดเชื่อมระหว่างสายกับตัวเรือนที่มีด้ายเกี่ยวไม่เหมือนใคร และจากการทำงานร่วมกันกับหน่วยงานทหารเรือมาก่อน จัดได้ว่า Radiomir มีความสามารถในการดำน้ำและดูเวลาได้ง่ายมากในน้ำ สำหรับรุ่นนี้ถูกผลิตครั้งแรกเพียง 10 เรือนเท่านั้น และให้สำหรับหน่วยงานลับได้ใช้ จากนั้นเป็นต้นมา Radiomir ได้กลายเป็นต้นแบบให้กับ PANERAI ทุกรุ่นในเวลาต่อมา
การปรากฏตัวของนาฬิการุ่นแรกที่เป็นของ PANERAI
แท้ ๆ ไม่เข้าร่วมกับใคร กับรุ่น LUMINOR Tip “I” ที่เป็นรุ่นที่ได้ปรับเปลี่ยนสารเรืองแสงที่จากเดิมทำจาก Radium ที่ค้นพบว่าเป็นอันตรายต่อมนุษย์ด้วยมีส่วนผสมของกัมมันตภาพรังสี จึงได้คิดค้นเปลี่ยนสารเรืองแสงใหม่เป็นวัสดุ Tritium ที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากกว่าเดิมแต่ก็ยังเป็นสารเรืองแสงที่อันตราย จนมาถึงปัจจุบันสารเรืองแสงของ PANERAI ได้ปรับมาเป็นแบบ Super Luminova แต่ก็ยังสร้างคอลเลคชั่นเก่าให้ขยับขึ้นไปเป็นแบบ Rare Item สำหรับนักสะสม อย่าง RADIOMIR Frogman ที่หายากมากและมีราคาซื้อขายสูงสุดถึง 3.5 ล้านบาทเลยทีเดียว
สิทธิบัตรสารเรืองแสงแบบ Super Luminova ได้ถูกจดเมื่อปี 1949 หรือ 13 ปีต่อมา พร้อมกับผลิตรุ่น Luminor 1950 ออกมาเพื่อนักสะสม ยังคงเก็บความเป็น Cushion เหมือนเดิม แต่เป็นรุ่นที่มี Crown Protecting Bridge กับการซ่อนเม็ดมะยม ต่อมาเกิดวิกฤต Quartz Crisis และประกอบกับการเสียชีวิตของ Giuseppe Panerai ลูกชายของ Guido และมีการเปลี่ยนชื่อแบรนด์กับผู้ทำงานคนใหม่ชื่อว่า Dino Zei ได้เปลี่ยนชื่อแบรนด์จาก G.Panerai & Figlio เป็น Officine Panerai S.r.L และได้กลับไปผลิตอุปกรณ์การดำน้ำให้กองทัพเรืออิตาลีเหมือนก่อนหน้านี้ โดยผลิต เข็มทิศ และเกจวัดระดับความลึกสำหรับข้อมือ และไฟฉายสำหรับใช้ใต้น้ำ
PANERAI ตัดสินในเปิดขายนาฬิกาสายอย่างเป็นทางการและเป็นผู้นำด้านนาฬิกาคลาสิคเมื่อปี 1993 ในชื่อคอลเลคชั่น Luminor, Luminor Marina และ Mare Nostrum และมีการนำ Luminor Slytech Daylight 5218-207/A ใส่อยู่ในข้อมือนักแสดงระดับฮอลิวูดอย่าง Sylvester Stallone ทำให้ PANERAI มีกระแสแรงขึ้นมาอีกครั้ง
ในปี 1997 มีการเปลี่ยนมือครั้งใหญ่อีกครั้งและมีการย้ายถิ่นการผลิตไปยังประเทศสวิสเซอร์แลนด์ และผู้ครอบครองกิจการของ PANERAI ในตอนนั้นคือ Johann Rupert เจ้าของ Vendôme Group (ปัจจุบันคือ The Richemont Group) นั่นเอง ดังนั้นเกิดการสะสมครั้งใหญ่ระดับโลกอีกครั้งเมื่อ PANERAI ถูกเปลี่ยนมือ ทำให้ทุกคอลเคลคชั่นที่ผลิตก่อนปี 1997 ที่เรียกกันว่า Pre-Vendomeกลายเป็นคอลเลคชั่นที่นักสะสมตามหา
มีความเติบโตอย่างรวดเร็วที่เรียกว่าเป็นแบบก้าวกระโดด ในปี 2005 พวกเขาได้เปิดตัวกลไก Manual รหัส P.2002 ที่มีฟังก์ชั่น GMT และ Power Reserve Panerai ยังไม่หยุดเพียงเท่านี้ ยังคงทำเซอร์ไพร์สโลกตะลึงด้วยการเปิดตัวPANERAI แบบ Dive Watch รุ่นใหม่เอี่ยมทำจากทองแดง อย่าง Luminor Submersible 1950 3 Days Automatic Bronzo ทำให้เรือนกลายนี้เป็นตัวนำเทรนด์
ปัจจุบันนี้ PANERAI มีทั้งหมด 75 สาขาทั่วโลกมีผู้บริหารหน้าใหม่อย่าง Jean-Marc Pontroué อดีตผู้บริหารของ Roger Dubuis เข้ามาดูแลกิจการทั้งหมดในฐานะ CEO ยังคงต้องจับตาดูกันต่อไปกับเส้นทางของแบรนด์หรู PANERAI ที่จะยังคงมีคอลเลคชั่นใหม่และความล้ำสมัยในผู้บริหารคนใหม่ตอนนี้ onsalereplicawatches
เครดิต : สล็อตแตกง่าย